นี่ก็ผ่านมาหลายเดือนแล้วที่ทางการจีนประกาศว่า พวกเขาไม่สามารถควบคุมสถานีอวกาศของพวกเขาที่มีชื่อว่า Tiangong-1 ได้ (Tiangong หมายถึง ปราสาทลอยฟ้า) โดยทางการจีนอธิบายว่า ไม่สามารถควบคุมตำแหน่งในวงโคจรของสถานีอวกาศที่มีขนาดใหญ่ และมันจะตกใส่โลกในทีสุด โดยในช่วงปลายปี 2017 ทางจีนได้คาดการณ์ถึงเวลาที่สถานีอวกาศจะพุ่งชนโลกเอาไว้อย่างหยาบๆ แต่ในตอนนี้ ข้อมูลจากองค์การอวกาศยุโรปสรุปว่า ปราสาทลอยฟ้าจะตกใส่โลกในช่วงปลายเดือนมีนาคมนี้
ข้อมูลล่าสุดจากองค์การอวกาศยุโรป หรือ European Space Agency (ESA) ที่เฝ้าจับตาวัตถุต่างๆ ที่ล่องลอยอยู่ในห้วงอวกาศ มีการระบุว่า Tiangong-1 จะตกใส่โลกในช่วงระหว่างวันที่ 24 มีนาคม - 19 เมษายน โดยนักวิทยาศาสตร์เชื่อว่า พิกัดที่สถานีอวกาศตกใสโลกจะอยู่ในพื้นที่ระหว่างเส้นละติจูด 43 องศาเหนือ ถึง 43 องศาใต้ ซึ่งเป็นการคาดการณ์ที่ไม่แน่ชัด แต่ทาง ESA ค่อนข้างมันใจว่า มันจะพุ่งชนในแถบซีกโลกเหนือ ซึ่งก็หมายความว่ามีหลายประเทศอยู่ในกลุ่มเสี่ยง อาทิ อเมริกาเหนือ, บางส่วนของประเทศสเปน, โปรตุเกส, กรีซ, จีน, หลายๆ ประเทศในแถบตะวันออกกลาง, หลายๆ ประเทศในแถบเอเชีย รวมถึงประเทศไทยด้วย...
ในระหว่างที่สถานีอวกาศกำลังกลับเข้าสู่ชั้นบรรยากาศโลก คาดกันว่ามันจะถูกเผาไหม้ไปจนเกือบจะหมดสิ้น โดยเหลือเศษซากตกใส่โลก แต่เจ้าเศษซากนี้ก็น่าจะสร้างปัญหาได้ โดยเฉพาะถ้ามันตกใส่ย่านชุมชนโดยวัสดุที่อยู่บนสถานีอวกาศนั้นก็มีเชื้อเพลิงที่เป็นสารเคมีที่มีพิษ และเป็นอันตรายสำหรับคนที่เข้าใกล้มัน
อย่างไรก็ดี ผู้เชี่ยวชาญทางด้านขยะอวกาศกล่าวว่า การที่เศษซากของสถานีอวกาศจะตกใส่ใครนั้น มันมีโอกาสน้อยกว่าการถูกลอตเตอรี่ถึงล้านเท่า แต่บทเรียนจากเหตุการณ์นี้สอนให้เรารู้ว่า การที่ประเทศที่พัฒนาแล้วอย่างจีน สูญเสียการควบคุมสถานีอวกาศของพวกเขาที่มีน้ำหนักถึง 8 ตัน นั้นทำให้ทั้งโลกถึงกับระส่ำระสายเลยทีเดียว
และมันช่วยย้ำเตือนว่า ESA หรือองค์กรด้านอวกาศใดๆ ที่ส่งสถานีอวกาศออกไปโคจรรอบโลก ก็ต้องเฝ้าระวังเหตุการณ์ทำนองนี้ให้ดี และหวังว่าจะสามารถคำนวณจุดตก รวมถึงวันเวลาที่มันจะตกได้อย่างแม่นยำ
ที่มา : bgr.com